ซื้อหุ้นไทยที่ราคาเป้าหมายสูงๆ สร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า SET Index จริงหรือไม่

ซื้อหุ้นไทยที่ราคาเป้าหมายสูงๆ สร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า SET Index จริงหรือไม่

นักลงทุนบางท่านอาจทำการตัดสินใจลงทุนด้วยการประเมินมูลค่าพื้นฐานของหุ้นเพื่อเปรียบเทียบราคาเป้าหมาย (Target Price) กับราคาตลาด ณ ปัจจุบันว่ามี upside มากน้อยเพียงใดก่อนตัดสินใจลงทุน  ซึ่งตามหลักการแล้วหากราคาเป้าหมายสูงกว่าราคาตลาด ณ ปัจจุบัน หมายความว่าราคาหุ้นนั้นต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น และมีแนวโน้มที่ราคาหุ้นนั้นจะปรับตัวขึ้นสู่เข้าราคาเป้าหมาย (Target Price)

Definit ได้จำลองการลงทุนโดยเลือกซื้อหุ้นในดัชนี SET Index (ไม่รวม REITs) ที่มีราคาเป้าหมายสูงเมื่อเทียบเป็นร้อยละของราคาตลาด ณ ปัจจุบัน หรือเลือกซื้อหุ้นที่มี Upside ของราคาเป้าหมายสูง 10 อันดับ และสร้างเป็นพอร์ตการลงทุนเพื่อเปรียบเทียบกับผลตอบแทนโดยรวม (Total return) ของ SET Index โดยราคาเป้าหมายที่ใช้พิจารณามาจากความเห็นส่วนใหญ่ของนักวิเคราะห์ที่รวบรวมโดย Bloomberg 

รายละเอียดการจำลองการลงทุน


รายละเอียด

Universe

SET Index

Condition

คัดเลือกหุ้นที่มีราคาเป้าหมายจาก Bloomberg Consensus สูงกว่าเมื่อเทียบเป็นร้อยละกับราคาตลาด หรือหุ้นที่มี Upside สูง10 อันดับ

Backtest period

01/01/2013-31/06/2023 (ประมาณ 10 ปี)

Rebalance

ทำการคัดเลือกหุ้นใหม่ทุกๆ ต้นไตรมาส

Allocation

กำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นทุกตัวเท่ากัน (Equal-weight) เพื่อจำลองเป็นพอร์ตการลงทุน

ผลการทดสอบ

หุ้นที่มี Upside สูง 10 อันดับให้ผลตอบแทน  126%  ซึ่งสูงกว่า SET Index (Total return) ที่ให้ผลตอบแทน 50% ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยมีผลตอบแทนส่วนเกิน (Alpha) 76%

ค่า Beta ของหุ้นในพอร์ตอยู่ที่ 1.65 เท่า สะท้อนว่าหุ้นในพอร์ตมีอัตราการเปลี่ยนที่มากกว่า SET Index 

โดยในช่วงตลาดขาขึ้น (Bull) หุ้นในพอร์ตมีค่า Beta สูงถึง 2 เท่าสะท้อนว่าช่วงตลาดขาขึ้นหุ้นในพอร์ตปรับตัวขึ้นได้โดดเด่นกว่า SET Index ขณะที่ช่วงตลาดขาลง (Bear) หุ้นในพอร์ตมีค่า Beta อยู่ที่ 1.4 บ่งชี้ว่าช่วงตลาดขาลงหุ้นในพอร์ตก็ปรับตัวลดลงแรงกว่า SET Index เช่นกัน

ด้านผลตอบแทนรายเดือน หุ้นในพอร์ตมีจำนวนเดือนที่แพ้ SET Index มากกว่า โดยจำนวนเดือนที่แพ้อยู่ที่ 65 เดือน คิดเป็นอัตราการแพ้ (Loss Rate) ที่ 52% ขณะที่จำนวนเดือนที่ชนะ SET Index ที่ 61 เดือนหรือคิดเป็นอัตราการชนะ (Win Rate) ที่ 48% 

ความสม่ำเสมอของผลตอบแทน 

โดยพิจารณาจาก Rolling Return เพื่อดูความสม่ำเสมอของตอบแทนส่วนเกินจาก SET Index ในระยะเวลาการลงทุนเพียง 1 ปี พบว่าหุ้นในพอร์ตไม่ได้มีความสม่ำในการสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่า SET Index ภายในระยะเวลาการลงทุน 1 ปี โดยจะพบว่าในช่วงปี 2016-2018 และ 2022- Jun 2023 หุ้นในพอร์ตทำผลตอบแทนได้แย่กว่า SET Index

สรุปผลการทดสอบการลงทุนในหุ้นที่มี Upside สูง 10 อันดับ

1.การซื้อหุ้นที่มี Upside ของราคาเป้าหมายสูง 10 อันดับและสร้างเป็นพอร์ตการลงทุนที่กำหนดสัดส่วนการลงทุนแบบเท่ากัน (Equal Weight) สามารถทำผลตอบแทนได้ดีกว่า SET Index ในช่วงเวลา 1 ม.ค. 2013 ถึง 31 พ.ค. 2023 

2.หากพิจารณาเพิ่มเติมในแง่ของอัตราการชนะ (Win rate) ของผลตอบแทนรายเดือนเมื่อเทียบกับ SET index และความสม่ำเสมอของผลตอบแทนในการลงทุนระยะเวลา 1 ปี (Rolling return) พบกว่ากลยุทธ์การลงทุนนี้ยังไม่น่าสนมาก


อย่างไรก็ดี Definit ได้พัฒนากลยุทธ์การคัดเลือกหุ้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนชนะ SET Index ได้อย่างสม่ำเสมอจากการ backtest สามารถอ่านได้ที่ www.definitinvestment.com

Source: Definit, SET, Bloomberg as of 20/09/2023

คำเตือน

ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้รวบรวมมาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ดี บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เดฟินิท จำกัด (บริษัท) ไม่สามารถยืนยันหรือรับรองความถูกต้องของข้อมูลเหล่านี้ได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ บทวิเคราะห์ในเอกสารนี้จัดทำขึ้นโดยอ้างอิงหลักเกณฑ์ทางวิชาการเกี่ยวกับหลักการวิเคราะห์ และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขาย หลักทรัพย์ใดใดของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลมาจากวิจารณญาณของผู้อ่าน โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือพันธะผูกพันใดๆ กับ บริษัท